วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2556

การวิเคราะห์ธาตุ ตามแนวกำหนดเส้นส่องกราดแบบ Line scan

การวิเคราะห์ธาตุ ตามแนวกำหนดเส้นส่องกราดแบบ Line scan
การทำ Line scan เหมาะสำหรับงาน cross section, Coating, เหล็กหล่อที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน,
งานวิเคราะห์รอยแตก รอยแยก,คราบปนเปื้อนของชิ้นงาน,วิเคราะห์ความเสียหายของวัสดุ และอื่นๆ



ตามภาพด้านล่างถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM
ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 500 เท่า สเกล 50 um (ไมครอน)หรือ 0.05 มิลลิเมตร
ถ่ายในโหมด High vacuum ภาพแบบ SEI ถ่ายโดย www.dosem24hr.com




ตามภาพด้านล่างถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM
ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 500 เท่า สเกล 50 um (ไมครอน) หรือ 0.05 มิลลิเมตร
ถ่ายในโหมด High vacuum ภาพแบบ BEI COMPO+SHADOWS ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



เรามาวิเคราะห์ด้วยเครื่องวิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณเชิงคุณภาพกันต่อ แบบรวบรัดโดยไม่ขอนำ
Spectrum และค่าเชิงปริมาณที่เป็นตัวเลขมาแสดง เราจะนำกราฟมาแสดงดังภาพล่าง จากตัวอย่าง
ตามภาพด้านบนพอเรายิงด้วยเครื่องวิเคราะห์ธาตุ EDS/EDX เราจะได้ผลว่าตัวอย่างเรามีสาร มีธาตุ
และมีปริมาณ ของสาร/ธาตุนั้นๆอยู่ปริมาณมากน้อยเท่าไร แล้วเรื่องตำแหน่งละบอกได้ไหมว่าแต่ละ
ตำแหน่งมีธาตุอะไรบ้าง ถ้าจะใช้วิธีนี้เราอาจจะเหนื่อยกันซักหน่อย เพราะต้องใช้วิธียิงเป็นจุดๆไป
(Point Analysis) แบบนี้ต้องยิงมากกว่าสิบกว่าจุดแน่ๆ

มีวิธีที่จะรู้ตำแหน่งธาตุโดยไม่ต้องยิงหลายจุด
ทำได้โดยใช้วิธีดังนี้
1.วิธีการทำแบบ Mapping วิธีนี้จะรู้ได้ทุกตำแหน่ง ของพื้นที่ที่เราทำ Mapping
2.วิธีการทำแบบ Line scan วิธีนี้จะรู้ได้ทุกตำแหน่งของเส้นที่เรากำหนด ที่เราทำ Line scan



บทความนี้เราจะมาดูเรื่องการทำ Line scan

โดยทั่วไปจะมีวิธีการ การทำ Line scan กันอยู่ 2 ประเภทหลักคือ
1. Analog Line scan แบบนี้เป็นวิธีดั้งเดิม ใช้วิธีเครื่องวิเคราะห์ธาตุจับสัญญาณสาร/ธาตุ
แล้วย้อน กลับมา ถ่ายภาพที่เครื่อง SEM ถ่ายออกมาเป็น ฟิล์มที่จะต้องนำไปล้างอัดกันต่อ
หรือถ่ายลงโพราลอยด์ฟิล์มก็จะสะดวกขึ้นมา แต่เรื่องของผลที่ได้จะ เป็นภาพขาวดำจะทราบ
ตำแหน่ง Line scan ธาตุนั้นเอาตามภาพกราฟที่แสดง ทำได้ครั้งละธาตุ

2. Digital Line scan แบบนี้จะเป็นวิธีที่นิยมกันมากที่สุด เพราะสามารถเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์
สามารถทำ Line scan แบบขาวดำ และแบบสีที่สามารถให้รายละเอียดมากยิ่งขึ้น ดีกว่าแบบ Analog
บทความนี้เราจะนำตัวอย่างที่เราถ่ายภาพ BEI Compo มาทำ Line scan กันต่อแบบ
Digital Line scan
ซึ่ง Line scan แบบนี้ก็มีอีก 2 วิธีคือ 1.Speed Line scan 2.Quant Line scan
เรามาดูแบบแรกกันค่ะ

Speed Line scan
ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นการทำ Line scan ที่รวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1-3 นาที/จุด/ตำแหน่ง
ข้อดี : 1.ให้ผลรวดเร็ว 2.ประหยัดค่าบริการ
ข้อเสีย : 1.ให้ผลเป็น Cps.(count per second) บอกเพียงแต่มีมากมีน้อย ไม่มีณ.บริเวณใดๆ
แต่บอกเป็น Element %ไม่ได้

ตามภาพด้านล่าง โดยทั้งภาพหลังจากเราวิเคราะห์ในเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ ที่เราทราบแล้ว
ว่าทั้งพื้นที่ที่เรา วิเคราะห์ไปมีธาตุอะไร มีจำนวน Element% เท่าไรไปกันแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่า
ธาตุที่เราทราบ อยู่บริเวณใด บนตัวอย่างอย่างที่บอกว่ามี 2 วิธีที่เราใช้กันคือการทำ Map และ
Line scan


ตามภาพล่างเราก็มากำหนด ลากเส้นผ่านตัวอย่าง ที่เราต้องการทราบ โดยเส้นที่เราลาก จุดเริ่ม
ต้นอยู่ซ้ายมือ ลากผ่านตามตำแหน่งที่เราต้องการ ตามเส้นลากผ่านจุดที่เป็นเม็ดขาวๆ 3 จุด และ
ไปสิ้นสุดด้านขวามือเส้นนี้มีความยาวประมาณ 1645 um(ไมครอนเมตร) ส่วนในกรอบสีเหลือง
ในภาพ เรากำหนดตำแหน่งของเคอร์เซอร์ ที่เป็นเส้นตรงแนวดิ่ง ตัดบริเวณจุดสีขาว เพื่ออยาก
ทราบว่า จุดนี้คือมีธาตุอะไร โดยทั่วไปการทำ Line scan ผลที่ออกมาก็จะบอกทั้งแนวเส้นอยู่แล้ว
แต่เรามาเจาะจงเพิ่ม ณ.ตำแหน่งนี้เพิ่มเท่านั้นเองและตำแหน่งที่เราเจาะจง เรากำหนดเป็น Point 1




หลังจากเรากำหนดเส้นแล้ว เราก็ทำ Line scan ผลออกมาตามภาพล่าง
ภาพ Speed Line scan โดย www.dosem24hr.com 





วิธีการดูผล
ช่องแรกบนซ้ายมือ คือสัญญาณจากภาพ BEI COMPO ที่ได้จากเครื่อง SEM ส่วนช่องที่เหลือ
คือธาตุที่เราเลือกมาทำ Line scan ตอนที่เราวิเคราะห์เชิงคุณภาพเราทราบมีธาตุอะไร เราก็เลือก
มาทำ โดย
ที่ไม่จำเป็นจะต้องเลือกให้ครบทุกธาตุ หรือจะครบทุกธาตุก็ได้ เรามาดูแต่ละช่องที่
เป็นธาตุเป็นตัวๆ เรายกตัวอย่างช่องทองแดง Cu ซึ่งจะมีตัวหนังสือและเลขกำกับไว้ว่า
CuK , 70
ความหมาย Cu คือทองแดง
K คือ K shell (K,L,M,N) ส่วน 70 คือค่า Cps.(count per second)
ซึ่งหมายถึง X-rayของ Cu 70ตัววิ่งมาชนหน้าEDS/EDX Detector จำนวนทั้งหมด 70 x-ray/1
วินาที ยิ่ง
ให้ตัวเลขนี้มากเท่าไร ความละเอียดของผลก็จะมากตาม นั้นก็หมายถึงเราต้องใช้เวลา
เพิ่มมากขึ้นด้วย


ตามตำแหน่งคอร์เซอร์สีน้ำเงินที่เรากำหนดถ้าดูที่กราฟ Line scan จะมีเส้นกราฟสูงขึ้นมาสามธาตุ
คือมี Cu ,Zn และ C ส่วนธาตุอื่นๆบริเวรนี้ไม่มี หรือมีแต่ Cps.ต่ำมาก การดูกราฟแต่ละธาตุไม่จำ
เป็นต้องดูเทียบเคอร์เซอร์ก็ได้ แค่เทียบเอาว่าจุดเริ่มต้นของเส้นที่เรากำหนด ก็คือกราฟด้านซ้ายสุด
ส่วนตำแหน่งด้านขวามือสุดของเส้น ก็เป็นขวาสุดของกราฟเช่นกัน

Quant Line scan
ข้อดี : 1.แม่นยำ 2.ผลละเอียด 3.บอกเป็น Element % (จะคล้าย Line scan ที่ได้จากเครื่อง EPMA)
ข้อเสีย : 1.ใช้เวลาในการทำต่อตำแหน่ง 10-20 นาที 2.ค่าบริการแพงกว่า Speed maping (1-3นาที)




การดูผล

ก็คล้ายๆกับแบบ Speed Line scan แต่ค่าที่ได้จะเป็น Element% แทน ยกตัวอย่างเรามาดูช่อง
ที่เรากำหนดเคอร์เซอร์ตามภาพบนเป็นเส้นสีขาวแนวดิ่ง ส่วนภาพล่างเป็นสีน้ำเงิน เราจะได้ผลว่า
ตำแหน่งนี้มีธาตุ Ca แคลเซียมแสดงอยู่ เกือบ 18 % Mn ประมาณ 40 % และมีปริมาณ P ประมาณ
3 % แกน Y จะเป็น Element % ค่าที่เห็นแต่ละช่อง(ธาตุ) เช่นช่อง Mg บริเวณที่มีธาตุ นี้เยอะสุด
คือ10.12% คืออยู่ด้านขวาของเคอร์เซอร์ นับจากเคอร์เซอร์ประมาณ 7 ช่อง การดูกราฟแต่ละธาตุ
ไม่จำเป็นต้องดูเทียบเคอร์เซอร์ก็ได้ แค่เทียบเอาว่าจุดเริ่มต้นของเส้นที่เรา กำหนด ก็คือกราฟด้าน
ซ้ายสุดส่วนตำแหน่งด้านขวาสุดของเส้น ก็เป็นขวาสุดของกราฟเช่นกัน

ภาพ Quant Line scan โดย www.dosem24hr.com



สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ www.dosem24hr.com
**************************************************************************

x-ray line scan,line scan,speed line scan,quant line scan,eds line scan,edx line scan

บทความน่าสนใจอื่นๆ
ที่มา : http://www.dosem24hr.com/index.php
สถานที่ให้และรับบริการ SEM,EDS : ใกล้ฟิวเจอร์รังสิต และดรีมเวิลด์
Do SEM บริการเครื่อง SEM กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด

วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2556

การวิเคราะห์การกระจายตัว และหาตำแหน่งของสาร/ธาตุ ด้วยวิธีการ Mapping

การวิเคราะห์การกระจายตัว และหาตำแหน่งของสาร/ธาตุ ด้วยวิธีการ Mapping
ภาพที่เราถ่ายจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด และแบบส่องผ่านบางเครื่องบางรุ่น และ
จากเครื่อง FE-SEM , EPMA เราจะได้ภาพเป็น SEI (Secondary Electron Image) เป็นหลักและรอง
ต่อมาคือภาพแบบ BEI (Backscattered Electron Image)



ภาพนี้เป็นภาพที่ได้จากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคปแบบส่องกราด SEM ซึ่งเราจะได้รายละเอียด ทางกายภาพ ลักษณะขนาด Grain size เป็นต้น ถ้าจะให้บอกว่าภาพที่เห็นเป็นเนื้อเดียวกันหรือไม่เป็น ถ้าไม่เป็น สาร/ธาตุแต่ละตัวอยู่บริเวณใดของตัวอย่าง ที่เราถ่าย คงเป็นการยากที่เราจะใช้ภาพนี้อธิบาย
ตามภาพถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์) กำลังขยาย x 500 เท่า สเกล 50 um (ไมครอน) หรือ 0.05 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด High vacuum ภาพแบบ SEI ถ่ายโดย www.dosem24hr.com




มาดูภาพจากเครื่องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM จากอีกหนึ่งตัวตรวจจับสัญญาณ นั้นคือจาก BEI Detector เป็นภาพแบบ BEI COMPO ที่เพิ่ม Shadows หรือเงาเข้าไปในภาพ ทำให้เราได้ รายละเอียดเพิ่มเติมจากภาพแบบ SEI ว่า ตัวอย่างเราไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกัน และมีโครงสร้างที่กระจาย ที่เราทราบเพราะ ข้อดีของ Detectorแบบนี้คือ มันจะแยกความแตกต่างของสาร และแสดงตามเลขมวลอะตอม (Atomic No./ Z) ตามภาพล่างเป็นภาพแบบ BEI COMPO โทนสีมืดคือธาตุเบาจะมีAtomic No.น้อย ส่วนโทนสีสว่างคือธาตุ หนักจะมีAtomic No.มาก พอเราทราบแบบนี้เราจะทราบได้อย่างไรว่าตรงจุดที่มีสีดำ สีขาว สีเทาเป็นธาตุ อะไรบ้าง ก็คงไม่ทราบ เราก็ต้องวิเคราะห์ต่อด้วยเครื่องวิเคราะห์ธาตุ EDS/EDX กันต่อ

ตามภาพถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์) กำลังขยาย x 500 เท่า สเกล 50 um (ไมครอน) หรือ 0.05 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด High vacuum
ภาพแบบ BEI COMPO+SHADOWS
ถ่ายโดย www.dosem24hr.com




เรามาวิเคราะห์ด้วยเครื่องวิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณเชิงคุณภาพกันต่อ แบบรวบรัดโดยไม่ขอนำ Spectrum
และค่าเชิงปริมาณที่เป็นตัวเลขมาแสดง เราจะนำกราฟมาแสดงดังภาพล่าง จากตัวอย่าง ตามภาพด้านบนพอเรายิงด้วยเครื่องวิเคราะห์ธาตุ EDS/EDX เราจะได้ผลว่าตัวอย่างเรามีสาร มีธาตุ และมีปริมาณ ของสาร/ธาตุนั้นๆอยู่ปริมาณมากน้อยเท่าไร แล้วเรื่องตำแหน่งละบอกได้ไหมว่าแต่ละ ตำแหน่งมีธาตุอะไรบ้าง
ถ้าจะใช้วิธีนี้เราอาจจะเหนื่อยกันซักหน่อย เพราะต้องใช้วิธียิงเป็นจุดๆไป (Point Analysis)
แบบนี้ต้องยิงมากกว่าสิบกว่าจุดแน่ๆ



มีวิธีการหาการกระจายตัวของสาร/ธาตุแบบสะดวกรวดเร็ว และไม่เร็ว นั้นก็คือการวิเคราะห์แบบ
Mapping

โดยทั่วไปจะมีวิธีการ การทำ Mapping กันอยู่ 2 ประเภทหลักคือ

1. Analog Mapping แบบนี้เป็นวิธีดั้งเดิม
ใช้วิธีเครื่องวิเคราะห์ธาตุจับสัญญาณสาร/ธาตุ แล้วย้อนกลับมา ถ่ายภาพที่เครื่อง SEM ถ่ายออกมาเป็น
ฟิล์มที่จะต้องนำไปล้างอัดกันต่อ หรือถ่ายลงโพราลอยด์ฟิล์มก็จะ สะดวกขึ้นมา แต่เรื่องของผลที่ได้จะ
เป็นภาพขาวดำจะทราบตำแหน่ง มากน้อยต้องสังเกตุการกระจายตัวของ Map ธาตุนั้นเอา

2. Digital Mapping แบบนี้จะเป็นวิธีที่นิยมกันมากที่สุด เพราะสามารถเก็บข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ สามารถ
ทำMap แบบขาวดำ และแบบสีที่สามารถให้รายละเอียดมากยิ่งขึ้น ดีกว่าแบบAnalog
บทความนี้เราจะนำตัวอย่างที่เราถ่ายภาพ BEI Compo มาทำ Mapping กันต่อแบบ Digital Mapping
ซึ่งMapping แบบนี้ก็มีอีก 2 วิธีคือ 1.Speed Mapping 2.Quant Mapping

Speed Mapping
ชื่อก็บอกแล้วว่า เป็นการทำMapping ที่รวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 2-20 นาที/จุด/ตำแหน่ง
ข้อดี     : 1.ให้ผลรวดเร็ว 2.ประหยัดค่าบริการ
ข้อเสีย : 1.ให้ผลเป็น Cps.(count per second) บอกเพียงแต่มีมากมีน้อย ไม่มีณ.บริเวณใดๆ แต่บอกเป็น
Element %ไม่ได้

วิธีการดูผล
ช่องแรกบนซ้ายมือ คือภาพBEI COMPO ที่ได้จากเครื่อง SEM (ภาพBEI ดูง่ายกว่า SEI) ส่วนช่องที่เหลือ คือธาตุที่เราเลือกมาทำ Mapping ตอนที่เราวิเคราะห์เชิงคุณภาพเราทราบมีธาตุอะไร เราก็เลือกมาทำ โดย ที่ไม่จำเป็นจะต้องเลือกให้ครบทุกธาตุ หรือจะครบทุกธาตุก็ได้ เรามาดูแต่ละช่องที่เป็นธาตุเป็นตัวๆ
เรายกตัวอย่างช่องแมงกานีส Mn ซึ่งจะมีตัวหนังสือและเลขกำกับไว้ว่า
MnK , 11 ความหมาย Mn
คือแมงกานีส K คือ K shell (K,L,M,N) ส่วน 11คือค่า Cps.(count per second)
ซึ่งหมายถึง X-rayของ
Mn 11ตัววิ่งมาชนหน้าEDS/EDX Detector จำนวนทั้งหมด 11 x-ray/1วินาที ยิ่ง
ให้ตัวเลขนี้มากเท่าไร
ความละเอียดของผลก็จะมากตาม นั้นก็หมายถึงเราต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นด้วย


ช่อง Mn เราจะใส่สีThermal เข้าไปโทนสว่างมากเหลืองไปขาวหมายถึงมี Mnมาก สีแดงน้ำตาลมีรองลงมา ส่วนน้ำเงินมีน้อย และสีดำคือตำแหน่งนั้นไม่มี Mn โดยต้องดูเทียบกับช่องแรกบนซ้ายสุด ส่วนการดูผลธาตุอื่นในช่องอื่นๆการดูก็เหมือนๆกัน

ภาพ Speed Mapping โดย www.dosem24hr.com ภาพจริงมีขนาดใหญ่กว่านี้ 20%



Quant Mapping
ข้อดี     : 1.แม่นยำ 2.ผลละเอียด 3.บอกเป็น Element % (จะคล้าย Mapที่ได้จากเครื่อง EPMA)
ข้อเสีย : 1.ใช้เวลาในการทำต่อตำแหน่ง 4-6ชั่วโมง 2.ค่าบริการแพงกว่า Speed mapค่อนข้างมาก
การดูผล
ก็คล้ายๆกับแบบ Speed แต่ค่าที่ได้จะเป็น Element% แทน ยกตัวอย่างเรามาดูช่อง Fe เหล็กเราก็จะรู้คร่าวๆว่าบริเวณใดของภาพที่มีเหล็กมากก็จะออกสี แดง ชมพูไป ขาว ส่วนมีไม่มากออกน้ำเงิน ดำคือตำแหน่งนั้นไม่มีเหล็กเลย

ภาพ Quant Mapping โดย www.dosem24hr.com ภาพจริงมีขนาดใหญ่กว่านี้ 20%



เราจะมีตัวช่วยในการดู Quant Mapping โดยเรียก Quant colour key ออกมาเทียบเป็น% ตามภาพด้าน
ล่างเลย จะแบ่งเฉดสีออกเป็น 10ช่วงช่วงละ 10% ครบ100%พอดี เราต้องการทราบธาตุใดเราก็เอาKey
นี้ไปเทียบตามช่องได้เลย
ส่วน Speed mapping ก็มี Key เหมือนกันแต่ค่าเป็น Cps.




เรามาเทียบระหว่าง Map ทั้งสองกัน จะได้เห็นกันชัดๆ โดยMn ภาพซ้ายคือผลจากการทำ Speed
mapping (20นาที) ส่วนภาพด้านขวาภาพที่ได้จาก Quant Mapping(4 ชั่วโมง) จะเห็นชัดเลยว่า
การทำ Mapping แบบ Quant Mapping จะดีกว่าละเอียดกว่า Speed Mapping เยอะเลย
ในเมืองไทยส่วนใหญ่นิยมใช้และให้บริการแบบ Speed mapping กันส่วนแบบ Quant Mapping
ไม่ค่อยมีใครทำ สาเหตุหลักเพราะถูกประหยัดกว่านั้นเอง

ถ้าท่านใดสนใจทำ Quant mapping ติดต่อที่ www.dosem24hr.com



**************************************************************************
ตำแหน่งการกระจายตัวของสาร,ตำแหน่งการกระจายตัวของธาตุ,MAP,MAPPING,SPEED MAP,
QUANT MAP,SPEED MAPPING,QUANT MAPPING,X-ray mapping,วิเคราะห์ธาตุแบบ Mapping,
EDS Mapping,EDX Mapping


บทความน่าสนใจอื่นๆ
ที่มา : http://www.dosem24hr.com/index.php
สถานที่ให้และรับบริการ SEM,EDS : ใกล้ฟิวเจอร์รังสิต และดรีมเวิลด์
Do SEM บริการเครื่อง SEM กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ส้มจิ๊ด ด้วยกล้องจุลทรรศน์ฯ SEM และ EDS,EDX

ส้มจิ๊ด ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์ฯ SEM และวิเคราะห์ธาตุด้วย EDS,EDX
การถ่ายภาพจากกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป ส่วนใหญ่ภาพที่เราเห็นจะเป็นภาพ SEI ตัวอย่างที่ถ่ายจะต้องนำไฟฟ้า ถ้าไม่นำก็ต้องทำให้นำไฟฟ้า ด้วยวิธีการเอาไปฉาบเคลือบทอง
ทองคำขาว แพทตินัม
คาร์บอน และอื่นๆให้นำไฟฟ้าได้ แล้วใช้กล้องในโหมดความเป็นสูญญากาศ
สูงในการถ่าย
หรือ High vacuum SEM ในระดับสูญญากาศ 9.6x10-5 Pa.(พาสคาล)

แต่เรามาดูการถ่ายภาพกับตัวอย่างที่ไม่นำไฟฟ้ากัน ตัวอย่างที่เรานำมาถ่ายกันก็คือส้มจี๊ด แต่เป็น
ผลที่ยังเล็กๆอยู่นะค่ะ แล้วใช้กล้องในโหมดความเป็นสูญญากาศต่ำในการถ่าย หรือ
Low vacuum SEM เรารู้จักในชื่ออื่นๆว่า LV SEM, VP SEM, N SEM, E SEM และ WET SEM
ตามแต่ยี่ห้อของกล้องจุลทรรศน์ฯ
Low vacuum ในระดับสูญญากาศ 6 - 270 Pa.(พาสคาล) บางรุ่นจะมากกว่า 270 Pa.



โหมดการถ่ายภาพ ภาพจะเป็น BEI COMPO, BEI COMPO+Shadows, BEI TOPO และ BEI TOPO+Shadows
(www.dosem24hr.com)

ลักษณะส้มที่เรานำมาวิเคราะห์
ตามภาพ เป็นสายพันธุ์ที่เราเห็นทั่วไป กับร้านขายต้นไม้ผล ต้นไม้ประดับทั่วไป



อีกภาพ



แต่ลักษณะส้มที่เรานำมาถ่าย เราจะศึกษากันที่ผลลูกเล็กกันค่ะ ตามภาพล่างค่ะ



การเตียมตัวอย่างไม่ยากค่ะ แค่เก็บส้มอย่างระมัดระวัง อย่างให้มือโดนบริเวณที่เราจะถ่ายภาพ
และวิเคราะห์ธาตุ
ตามภาพ เราจะนำผลส้ม มาติดกับแท่นวางตัวอย่าง STUB ที่ไม่นำไฟฟ้าเหมือนกัน ขนาดของ
ผลประมาณครึ่งเซ็น 5-6 มิลลิเมตร


เราจะศึกษาผลส้ม 2ด้าน ด้านข้างและด้านบน เรานำผลส้มติดด้วยเทปกาวธรรมดา ไม่ต้องใช้
เทปกาวที่นำไฟฟ้าได้ ตามภาพที่เห็นเป็นใบ ไม่ใช่ใบส้มนะค่ะ แต่เป็นใบหัวใจล้านดวงจะเป็น
บทความต่อไปค่ะ




ตามภาพเป็นส้มจี๊ด

ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 15 เท่า สเกล 1 mm มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO
แรงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



ปรับ Contrast และ Brightness ของภาพเพิ่มเติม ตามภาพเราจะเห็นคราบและเม็ดสีขาวเกาะติดอยู่
แต่เรายังไม่ทราบว่าเป็นอะไร เราจะวิเคราะห์ EDS,EDX อีกครั้งทีนี้ก็จะทราบแล้วละค่ะ ว่าเป็นอะไร



ตามภาพเป็นขั้วส้มจี๊ด
ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 35 เท่า สเกล 500 um (ไมครอน) หรือ 0.5 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO
แรงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



ตามภาพเป็นขั้วส้มจี๊ด
ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 75 เท่า สเกล 100 um (ไมครอน) หรือ 0.1 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO
แรงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



ตามภาพเป็นผิวส้มจี๊ด
ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 200 เท่า สเกล 100 um (ไมครอน) หรือ 0.1 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO แ
รงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



ตามภาพเป็นด้านบนส้มจี๊ด ด้านที่ดอกส้มหลุดออกไป
ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 50 เท่า สเกล 500 um (ไมครอน) หรือ 0.5 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO
แรงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



ตามภาพเป็นด้านบนส้มจี๊ด ด้านที่ดอกส้มหลุดออกไป
ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 75 เท่า สเกล 100 um (ไมครอน) หรือ 0.1 มิลลิเมตร ถ่ายในโหมด Low vacuum ภาพแบบ BEI COMPO
แรงดันของสูญญากาศ 40 ถึง 60 Pa. พาสคาล

ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



เราจะวิเคราะห์ผิวของลูกส้มกันดู ตำแหน่งที่เราจะวิเคราะห์คือตำแหน่งตามภาพด้านล่างค่ะ



วิเคราะห์เชิงคุณภาพเราจะได้ สเป็คตรัมตามภาพ
ผลการวิเคราะห์จุดนี้จะพบ O ออกซิเจน,Si ซิลิกอน,Ca แคลเซียม ,Al อลูมิเนียม, K โปแตสเซียม,
C คาร์บอน และ S ซัลเฟอร์




วิเคราะห์เชิงปริมาณเราจะได้ ผลตามภาพยกตัวอย่างจะมีปริมาณธาตุ K โปแตสเซียม อยู่ 2.24 % (ดู Element %)



วิเคราะห์เชิงปริมาณ แบบแท่งกราฟเราจะได้ ผลตามภาพ




ตามจุดที่เราวิเคราะห์ ถ้าเราวิเคราะห์แบบ Mapping ต่อเราก็จะทราบตำแหน่งของแต่ละธาตุได้
ตามภาพ ช่องซ้ายสุดบนจะเป็นภาพ BEI COMPO
วิธีการดู Mapping เราจะดูช่องของภาพ BEI COMPO เทียบกับช่องธาตุแต่ละตัว ตามภาพเราทำการ
map ทั้งหมด 6 ธาตุ

ยกตัวอย่างเราดูช่อง S ซัลเฟอร์ บริเวณใดที่สีโทนสว่างจะมีซัลเฟอร์อยู่ สว่างมากมีปริมาณมาก
สว่างน้อยมีน้อยสีมืดหรือดำ คือตำแหน่งนั้นๆไม่มีซัลเฟอร์ ตามภาพช่องS ซัลเฟอร์ เทียบกับภาพ
BEI COMPO แล้วจะเป็นตำแหน่งเม็ดสว่างด้านบนขวามือบน ถ้าเทียบกับตำแหน่ง Ca แคลเซียมแล้ว
จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน


โอกาสหน้าจะเอาภาพ ใบของหัวใจล้านดวงมาถ่ายให้เห็นถึงลักษณะปากใบ กับบทความหน้าค่ะ
**************************************************************************
ส้ม,ส้มจี๊ด,ผิวส้ม,วิเคราะห์ธาตุส้ม,ภาพส้มจากSEM,ภาพถ่ายส้มจากSEM


บทความน่าสนใจอื่นๆ

ส้มจิ๊ดถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์ฯ SEM และวิเคราห์ธาตุด้วย EDS,EDX คลิก

วิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพด้วย EDS,EDX คลิก
สะเก็ดแผล ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ คลิก
วิเคราะห์อิฐมวลเบา อิฐเบา อิฐขาว ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ SEM,EDS/EDX คลิก
แป้งเด็ก แป็งเย็น ผงแป้ง ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ SEM และวิเคราะห์ธาตุด้วย EDS,EDX คลิก 

 เทคนิคการวิเคราะห์ธาตุด้วย EDS หรือ EDX, WDX หรือ WDS, และ EPMA แบบใหนดีกว่ากัน คลิก
วิเคราะห์เส้นผม วิเคราะห์เส้นขน คลิก
มหัศจรรย์ผึ้งน้อย คลิก

จุลินทรีย์ คือสิ่งสิ่งมีชีวิตที่สายตาเปล่า คนเรามองไม่เห็น คลิก
การวิเคราะห์เส้นใย สิ่งทอ เส้นไหม เส้นใยสังเคราะห์ fibers คลิก
 วิเคราะห์ความเสียหายวัสดุและอุปกรณ์ ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ ไฟฟ้า คลิก 
แร่ธาตุในข้าวหอมมะลิ คลิก
ผงชูรส และผงปรุงรส คลิก
วิเคราะห์สิว ด้วยกล้องจุลทรรศน์ คลิก
ความมหัศจรรย์ของหนวดหรือเคราฤาษี คลิก
ปากดีของมดดำ คลิก

 ผมมันชั่ว ผมมันเลว คลิก
ฟองน้ำ ฟองน้ำ คลิก

 เชื่อหรือไม่ว่าคือขนมปัง คลิก
แกงไก่หน่อไม้ดอง คลิก
  มาจุดธูปขอหวยกัน คลิก
พระเครื่องเก่าแก่ คลิก
บ้านและสวนสวย คลิก
ที่มา : http://www.dosem24hr.com/index.php
สถานที่ให้และรับบริการ SEM,EDS : ใกล้ฟิวเจอร์รังสิต และดรีมเวิลด์
Do SEM บริการเครื่อง SEM กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพด้วย EDS,EDX

วิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพด้วย EDS,EDX

(** บทความนี้ขอขอบคุณ คุณกลอ์ฟ Mr.Golf มากๆค่ะ จากใจ Do SEM Feb 2,2013 **)
ปกติเครื่องวิเคราะห์ EDS หรือ EDX ชื่อย่อมาจาก Energy Dispersive X-ray Spectrometer
มักจะนิยมใช้และติดตั้งบนเครื่อง จุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด SEM
มากที่สุด เป็นเครื่องมือประเภท Micro Analysis สามารถกำหนดจุดในการวิเคราะห์ได้ 2 แบบ
1. Area Analysis วิเคราะห์เป็นพื้นที่ ตารางไมครอน um2
2. Point Analysis วิเคราะห์เป็นจุด จุดวิเคราะห์เล็กเป็นระดับ ไมครอน เล็กถึงระดับนาโน



* มีคำถาม อย่างมากมายที่ผมได้ยินมา ตลอดชีวิตการทำงานเกือบ 20ปี กับทุกท่านที่ได้ใช้ EDS/EDX
ว่า Beam
ยิงลงมาบนตัวอย่าง มีความกว้างDia. เท่าไร มีขนาดลึกเท่าไร ผมมีคำตอบ ติดตามบทความของ Mr.Golf สิงห์เฒ่าซ่อมเซ็ม ผ่านช่องทางของ Do SEM ต่อไปนะครับ (รับจ๊อบนอกจากทำนาครับ 5555)

ตามภาพ EDS หรือ EDX ติดตั้งบนเครื่อง SEM




การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ Qualitative Analysis

คือการวิเคราะห์หาว่าตัวอย่างที่เราวิเคราะห์มีธาตุอะไรบ้าง สามารถวิเคราะห์ได้ตั้งแต่ธาตุ B โบรอน - U
ยูเรเนียม
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ Quantitative Analysis
คือการวิเคราะห์หาว่าตัวอย่างที่เราวิเคราะห์มี % ธาตุอยู่ปริมาณเท่าไร โดยสามารถวิเคราะห์หา % ออกมาได้ 2 แบบ
ตัวอย่าง Minerral/Nature Standard : WOLLASTONITE CaSiO3

1.แบบ Pure Element เราจะได้ผล % ธาตุ หรือ % Element เป็นธาตุๆ
เช่น ตามตัวอย่าง CaSiO3 ที่เราวิเคราะห์ มี% Ca แคลเซียม 34.30% Si ซิลิกอน 23.8 % O ออกซิเจน
41.30 % และ Fe เหล็ก 0.05% รวมแล้วเป็น 99.45 % (ผลจากเครื่อง WDX ตามใบ Certificate)

2.แบบ Compound Element จะบอก% ธาตุอยู่ในรูปออกไซด์
เช่นตามตัวอย่าง CaSiO3 วิเคราะห์ มี% CaO แคลเซียมออกไซด์ 48.00% SiO2 ซิลิกอนออกไซด์
50.94 % FeO เหล็กออกไซด์ 0.11% MgO แมกนีเซียมออกไซด์ 0.15% และ FeO เหล็กออกไซด์
0.11 % รวมแล้วเป็น 99.29 % (ผลจากเครื่อง EPMA ตามใบ Certificate)
วิเคราะห์แบบนี้เหมาะกับตัวอย่างที่เป็น Oxide,Mineral,Nature,Compound,Sulfides,Rare earth,
Glass,Geology,Ceramic Material-Related,Semiconductor,Super Conductor,Magnetic Material,
Display Material เป็นต้น


** ถ้าใครมี INCA EDS มีออปชั่น Synthesis ลองใส่สูตร Standard และ Condition ของเราเข้าไปเราก็
จะได้ % ธาตุออกมาทันที โดยเราไม่ต้องยิงตัวอย่าง หรือ Standard เราจริงๆได้ และค่าที่ได้ใกล้เคียงกับ
ผลที่เรายิงจริงๆครับ (INCA EDS ออปชั่น Synthesis บทความต่อไปครับ)

ใหนๆก็พูดถึงตัวอย่าง Minerral/Nature Standard : WOLLASTONITE CaSiO3 กันแล้ว
ผมก็จะใช้ตัวอย่างนี้ลองวิเคราะห์จริงกับเครื่อง EDS/EDX ว่าเป็นไง ผลใกล้เคียงกันไหม
*** ขอขอบคุณ Mr.David Lee (Do SEM) เจ้าของ Standard ครับ

ตามภาพเป็น WOLLASTONITE CaSiO3 ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคปแบบส่องกราด SEM
ที่ 20kv (กิโลโวลท์)
กำลังขยาย x 35 เท่า สเกล 500 um (ไมครอน) หรือ 0.5 มิลลิเมตร เมื่อนำสเกลเทียบกับขนาดแผลแล้วจะมีขนาด 1x2 มิลลิเมตรถ่ายในโหมด High vacuum ภาพแบบ SEI ถ่ายโดย www.dosem24hr.com

หน้าตา Standard WOLLASTONITE CaSiO3 ที่ถ่ายด้วยเครื่อง SEM


การเก็บ Standard เก็บไว้ไม่ค่อยดี ไม่ได้เก็บไว้กับตู้ Dry Cabinet เก็บไว้ตู้ธรรมดานานมาก ปกติ Standardที่เราซื้อมาจะมีอายุ 1ปี หลังจากนั้นจะต้องส่งกลับบริษัทผู้ผลิต เพื่อขัดทำความสะอาดและออกใบรับรองให้ใหม่บางที ค่าใช้จ่ายแพงกว่าซื้อใหม่ แต่ถ้าเป็น Standard Box มี 30-50 ตัวขึ้นไปก็คุ้มจะส่งกลับครับ แต่ก็ประหยัดตังส์กว่าซื้อใหม่แค่ 20-30% ครับ

ตามภาพเป็น WOLLASTONITE CaSiO3 ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคปแบบส่องกราด SEM  ที่ 20kv (กิโลโวลท์) กำลังขยาย x 100 เท่า สเกล 100 um (ไมครอน) หรือ 0.1 มิลลิเมตร
เมื่อนำสเกลเทียบกับขนาดแผลแล้วจะมีขนาด 1x2 มิลลิเมตรถ่ายในโหมด High vacuum ภาพแบบ SEI
ถ่ายโดย www.dosem24hr.com



การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ

การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แค่บอกตัวอย่างเรามีธาตุ Ca แคลเซียม Si ซิลิกอน O ออกซิเจน Fe เหล็ก
Mg แมกนีเซียม และมี Mn แมงกานีส แต่ไม่ได้บอกว่าแต่ละธาตุมีกี่ %

ตามภาพเป็น Spectrum ที่ยิงแบบเป็นจุด Point Analysis



การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ
ตามภาพเป็น Spectrum ที่ยิงแบบเป็นพื้นที่ Area Analysis



ตามภาพบนทั้ง การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ แบบ Point/Area Analysis เราดูภาพแทบจะไม่แตกต่างกัน
แต่ 2 จุดถ้าเราวิเคราะห์เชิงปริมาณจะแตกต่างกัน หรือแม้แต่วิเคราะห์เหมือนกันแค่เปลี่ยนจุด ก็ต่างแล้ว
ละครับ



วิเคราะห์เชิงปริมาณ

ตามภาพล่างเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ พื้นที่จุดที่ 1

1.แบบ Pure Element เราจะได้ผล % ธาตุ หรือ % Element เป็นธาตุๆ
CaSiO3 ที่เราวิเคราะห์ มี% Ca แคลเซียม 41.37 (34.30%) Si ซิลิกอน 22.10 (23.8 %)
O ออกซิเจน 35.97 (
41.30 %) Fe เหล็ก 0.08 (0.05%) Mg แมกนีเซียม 0.04 %
Mn แมงกานีส 0.44 % รวมแล้วเป็น 100 % (normalization)


**** ค่าในวงเล็บคือค่าจากเครื่อง WDX
ผลด้านล่าง ผลจากเครื่อง EDS/EDX www.dosem24hr.com




ตามภาพล่างเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ แบบ Point จุดที่ 1



ตามภาพเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ แบบกราฟแท่ง พื้นที่จุดที่ 2





วิเคราะห์เชิงปริมาณ
ตามภาพล่างเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ พื้นที่จุดที่ 1 (เปลี่ยนเป็นผลจาก Element% เป็น Compound %)

2.แบบ Compound Element จะบอก% ธาตุอยู่ในรูปออกไซด์
CaSiO3 วิเคราะห์ มี% CaO แคลเซียมออกไซด์ 54.54 (48.00%) SiO2 ซิลิกอนออกไซด์ 44.74
( 50.94 %) FeO เหล็กออกไซด์ 0.12 (0.11% ) MgO แมกนีเซียมออกไซด์ 0.06 (0.15%)
MnO แมกนีเซียมออกไซด์ 0.54 และ FeO เหล็กออกไซด์ 0.12
(0.11 %)
รวมแล้วเป็น 100 % (ผลในวงเล็บ จากเครื่อง EPMA ตามใบ Certificate)

ผลด้านล่าง ผลจากเครื่อง EDS/EDX www.dosem24hr.com






ตามภาพเป็นการวิเคราะห์เชิงปริมาณ แบบกราฟบาร์ พื้นที่จุดที่ 1
การวิเคราะห์แบบ Compound % เราจะได้ผล Element % มาด้วยตามภาพบน แต่ผล Element % แบบนี้
จะไม่เท่ากับเราทำ Element % อย่างเดียวก่อนหน้านะครับ และแบบนี้ค่าใกล้เคียงกับใบ Certificate ครับ



Standard ที่เรานำมาทดสอบ ใบรับรอง และอ้างอิงจะเป็นคนละตัว และผลมาจากทั้ง EDS/EDX ,WDX
และ EPMA แต่ผลที่ได้มีค่าใกล้เคียงกันครับ

ในเมืองไทยส่วนใหญ่ หน่วยงานที่รับวิเคราะห์ จะวิเคราะห์ผลเป็น Element % ที่บอก% ธาตุเป็นตัวๆไป
จะไม่ค่อยมีการวิเคราะห์แบบ Compound % กันครับ แต่ที่นี้รับครับ www.dosem24hr.com ผมจะแนะ
วิธีการวิเคราะห์แบบนี้กับ Do SEM อย่างละเอียดไว้แล้วครับ

ส่วนใหญ่ที่ใช้ และให้งานบริการ ในบ้านเราวิเคราะห์ Element % 99 % และ Compound % 1% ครับ

สุดท้ายขอบคุณน้องๆทีมงาน Do SEM ที่ให้ Mr.Golf (สิงห์เฒ่าซ่อมเซ็ม) มีโอกาสนำความรู้ อันน้อยนิด
มาแชร์ครับ ขอบคุณครับ ขอตัวไปทำนาต่อนะครับ รับคำชี้แนะทุกท่านครับทาง
manatsanan2007@gmail.com


............................................................................................................................
Quant,SEM Quant,Qulitative analysis,Quantitative analysis,Element %,Compound %,
% ธาตุ,วิเคราะห์ธาตุ,วิเคราะห์%ธาตุ,วิเคราะห์เชิงคุณภาพ,วิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณ


บทความน่าสนใจอื่นๆ

วิเคราะห์ธาตุเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพด้วย EDS,EDX
คลิก
สะเก็ดแผล ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ คลิก
วิเคราะห์อิฐมวลเบา อิฐเบา อิฐขาว ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ SEM,EDS/EDX คลิก
แป้งเด็ก แป็งเย็น ผงแป้ง ถ่ายด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนฯ SEM และวิเคราะห์ธาตุด้วย EDS,EDX คลิก
เทคนิคการวิเคราะห์ธาตุด้วย EDS หรือ EDX, WDX หรือ WDS, และ EPMA แบบใหนดีกว่ากัน คลิก
วิเคราะห์เส้นผม วิเคราะห์เส้นขน คลิก มหัศจรรย์ผึ้งน้อย คลิก

จุลินทรีย์ คือสิ่งสิ่งมีชีวิตที่สายตาเปล่า คนเรามองไม่เห็น คลิก
การวิเคราะห์เส้นใย สิ่งทอ เส้นไหม เส้นใยสังเคราะห์ fibers คลิก
วิเคราะห์ความเสียหายวัสดุและอุปกรณ์ ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ ฮาร์ดดิสก์ ไฟฟ้า คลิก 
 แร่ธาตุในข้าวหอมมะลิ คลิก
ผงชูรส และผงปรุงรส คลิก
วิเคราะห์สิว ด้วยกล้องจุลทรรศน์ คลิก
ความมหัศจรรย์ของหนวดหรือเคราฤาษี คลิก
ปากดีของมดดำ คลิก

ผมมันชั่ว ผมมันเลว คลิก
ฟองน้ำ ฟองน้ำ คลิก

เชื่อหรือไม่ว่าคือขนมปัง คลิก
แกงไก่หน่อไม้ดอง คลิก มาจุดธูปขอหวยกัน คลิก
พระเครื่องเก่าแก่ คลิก
บ้านและสวนสวย คลิก
ที่มา : http://www.dosem24hr.com/index.php

สถานที่ให้และรับบริการ SEM,EDS : ใกล้ฟิวเจอร์รังสิต และดรีมเวิลด์
Do SEM บริการเครื่อง SEM กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนไมโครสโคป แบบส่องกราด